โปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 (รอบรองชนะเลิศ) การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ได้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยวันนี้จะเป็นการโคจรกลับมาเจอกันระหว่าง อาร์เจนตินา พบ โครเอเชีย  เรามาดูกันว่าทีมฝั่งไหนมีความพร้อมอย่างไรกันบ้าง ซึ่งการแข่งขันคู่นี้จะเริ่มขึ้นในเวลา 02.00 น. (ตีสอง) ตามเวลาประเทศไทย ในวันที่ 13 ธันวาคม 2022 ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U หลังจาก “ทีมฟ้าขาว” อาร์เจนตินา

“เนย์มาร์” ยอมรับยังเจ็บปวด เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล เปิดเผยว่าจนถึงตอนนี้ตนยังรู้สึเจ็บปวดมากๆ กับการที่ทีมตกรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ฟุตบอลโลก 2022 จากการแพ้ โครเอเชีย ในช่วงดวลจุดโทษ ก่อนที่ทัวร์นาเมนท์นี้จะเริ่มขึ้น บราซิล ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ โดยบางรายมองว่าพวกเขาเป็นเต็ง 1 เลยด้วย แต่สุดท้ายทัพ “แซมบ้า” ก็ยังต้องรอคอยแชมป์โลกสมัยที่ 6 ของพวกเขาต่อไป เนย์มาร์ กล่าวผ่าน อินสตาแกรมว่า

“โรนัลโด้” เผยความในใจ ผ่านอินสตาแกรม “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ซูเปอร์สตาร์ไร้สังกัด ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวบรรยายถึงความในใจหลัง ทีมชาติโปรตุเกส ต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2022 หลังพ่ายแพ้ให้กับ โมร็อกโก 0-1 โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “แชมป์ฟุตบอลโลก กับทีมชาติโปรตุเกส เป็นเหมือนความฝัน และความทะเยอทะยานสูงสุดในชีวิตนักฟุตบอลของผม” โรนัลโด้ เริ่มกล่าว “โชคดีที่ผมคว้าแชมป์ระดับนานาชาติมาแล้วหลายรายการกับสโมสร รวมไปถึงกับทีมชาติโปรตุเกสด้วย แต่การทำให้ชื่อของประเทศเราไปอยู่บนจุดสูงสุดของโลกก็ยังคงเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผมเสมอ”

“อังกฤษ” พบกับ “ฝรั่งเศษ” จบด้วยสกอร์ 1-2 อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส : ผลบอล 1-2 ทีมชาติฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ หลังเฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 ในรอบ 8 ทีม โดย ออเลเรียง ชูอาเมนี่ ซัดให้ทีมตราไก่ขึ้นนำในนาทีที่ 17 จากนั้น

“เนเธอร์แลนด์” พบกับ “อาร์เจนติน่า” 2-2 (จุดโทษ 3-4) เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนติน่า : ผลบอล 2-2 (จุดโทษ 4-3) ทีมชาติอาร์เจนติน่า สามารถเอาชนะการดวลจุดโทษ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้อย่างสุดหวิว ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้สำเร็จ หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 2-2 ก่อนจะมาดวลจุดโทษ และยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ

“โมร็อกโก” พบกับ “โปรตุเกส” จบไปด้วยสกอร์ 1-0 โมร็อกโก พบ โปรตุเกส : ผลบอล 1-0 โมร็อกโก จารึกประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมจากทวีปแอฟริกาทีมแรก ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลก หลังเฉือนชนะ โปรตุเกส ไปแบบพลิกล็อกช็อกโลก ด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกโหม่งของ ยูสเซฟ เอ็น-เนเซรี่ ในนาที 42 โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง